SPF และ PA คืออะไร? รู้ก่อนเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวคุณ
อัพเดทล่าสุด: 5 ส.ค. 2025
14 ผู้เข้าชม
SPF และ PA คืออะไร? รู้ก่อนเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวคุณ
แสงแดดในชีวิตประจำวันไม่เพียงแค่ทำให้ผิวคล้ำเสีย แต่ยังส่งผลลึกถึงระดับเซลล์ผิว ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และแม้กระทั่งโรคมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น การทาครีมกันแดด จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวทุกวัน และแน่นอนว่าคุณคงเคยเห็นคำว่า SPF และ PA อยู่บนฉลากผลิตภัณฑ์กันแดดบ่อยๆ แต่เคยสงสัยไหมว่า SPF และ PA คืออะไร? ต่างกันอย่างไร? และต้องเลือกแบบไหนถึงจะปกป้องผิวได้ดีที่สุด? มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันในบทความนี้
SPF คืออะไร?
SPF (Sun Protection Factor) คือค่าที่บอกถึงความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้ แดง แสบ ลอก และเป็นปัจจัยสำคัญของมะเร็งผิวหนัง ยิ่งค่า SPF สูง ก็ยิ่งสามารถป้องกันรังสี UVB ได้นานขึ้น (แต่ไม่ใช่ป้องกันได้มากขึ้นแบบ 2 เท่า) ตัวอย่างเช่น
-
SPF 15 ป้องกัน UVB ได้ ~93%
-
SPF 30 ป้องกัน UVB ได้ ~97%
-
SPF 50 ป้องกัน UVB ได้ ~98%
-
SPF 50+ หมายถึงค่าที่สูงกว่า SPF 50
กฎหมายในประเทศไทยกำหนดให้ใส่ค่า SPF ได้เท่าไหร่?
ในประเทศไทย การระบุค่า SPF บนฉลากผลิตภัณฑ์กันแดดต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายด้านเครื่องสำอาง โดย ค่า SPF สูงสุดที่สามารถระบุบนฉลากได้คือ SPF 50+
เหตุผลที่กำหนดไว้สูงสุดที่ SPF 50+
-
เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของผู้บริโภค
ค่า SPF ที่สูงมาก เช่น SPF 70 หรือ SPF 100 อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าป้องกันได้ 100% และไม่จำเป็นต้องทาซ้ำ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะแม้ SPF จะสูงเพียงใด ก็ยังไม่สามารถป้องกัน UVB ได้ทั้งหมด และประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อเจอเหงื่อ น้ำ หรือสัมผัสใบหน้า -
ควบคุมมาตรฐานการโฆษณาและการรับรองผล
การอนุญาตให้แสดงเพียง "SPF 50+" จะช่วยควบคุมการตลาดไม่ให้โอ้อวดเกินจริง และช่วยให้ผู้บริโภคเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยเข้าใจในหลักการที่ถูกต้อง
ดังนั้น หากคุณเห็นผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในไทยระบุว่า SPF 50+ นั่นคือค่าสูงสุดที่กฎหมายอนุญาตให้แสดง และถือว่าเพียงพอสำหรับการปกป้องผิวจากรังสี UVB ในระดับสูงสุดตามที่ผ่านการทดสอบอย่างถูกต้องแล้ว
PA คืออะไร?
PA (Protection Grade of UVA) คือค่าที่บ่งบอกความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถทะลุเข้าสู่ผิวชั้นลึก ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ และความเสียหายในระยะยาว ระบบการวัดของ PA ใช้เครื่องหมาย + เป็นตัวแสดงระดับประสิทธิภาพ เช่น:
-
PA+ = ป้องกัน UVA ในระดับน้อย
-
PA++ = ระดับปานกลาง
-
PA+++ = ระดับสูง
-
PA++++ = ระดับสูงมาก เหมาะสำหรับแดดจัดหรือกิจกรรมกลางแจ้ง
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีควรมี ทั้งค่า SPF และ PA เพื่อปกป้องผิวจาก รังสี UVB และ UVA ได้ครบถ้วน
วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับคุณ
1. ดูค่า SPF และ PA ให้เหมาะกับการใช้งาน
-
อยู่ในร่ม / ทำงานออฟฟิศ: SPF 1530 / PA++
-
เดินทางกลางแจ้ง: SPF 3050 / PA+++
-
กิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ หรือไปทะเล: SPF 50+ / PA++++
2. เลือกให้ตรงกับสภาพผิว
-
ผิวมันหรือเป็นสิวง่าย: ควรเลือกสูตร Oil-Free, Non-comedogenic
-
ผิวแห้ง: ควรเลือกกันแดดที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น
-
ผิวแพ้ง่าย: ควรเลือก Physical Sunscreen หรือสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม
3. ทาในปริมาณที่พอเหมาะและทาซ้ำ
-
ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที
-
ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
สรุป: SPF และ PA สำคัญกับผิวอย่างไร?
-
SPF ป้องกันผิวไหม้จากรังสี UVB
-
PA ป้องกันผิวแก่จากรังสี UVA
การใช้ครีมกันแดดที่มีทั้ง SPF และ PA ครบถ้วนคือเกราะป้องกันผิวขั้นพื้นฐานที่คุณไม่ควรมองข้าม หากต้องการมีผิวที่แข็งแรง กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาครีมกันแดดที่ทั้ง ปกป้องผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และ อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. และเหมาะกับสภาพผิวของคุณเอง
หากคุณต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์หรือต้องการตัวทดลองสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มี ทีม R&D มืออาชีพเฉพาะทาง คอยดูแลคุณตั้งแต่เริ่ม โรงงานได้รับมาตรฐาน GHPs / อย. ขั้นต่ำในการผลิตเริ่มเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น!
♥ Start Your Brand Start With Amabelle ~
Line Official : @amabelle
Tiktok Official : @amabelle.oem
Facebook : Amabelle รับผลิตเครื่องสำอาง รับสร้างแบรนด์ครบวงจร
บทความที่เกี่ยวข้อง
การเกิดรอยดำและรอยแดงจากสิวเป็นปัญหาที่หลายคนเจอหลังจากสิวหายไปแล้ว รอยเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจในผิวหน้า แต่คุณสามารถลดรอยดำและรอยแดงจากสิวได้ด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยและไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง!
การดูแลผิวก่อนนอนเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงเวลาที่เราหลับ ร่างกายจะฟื้นฟูตัวเอง รวมถึงผิวของเราด้วย ดังนั้นการใช้ สกินแคร์ก่อนนอน ที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้น แข็งแรง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตอนเช้า
อยากสร้างแบรนด์สบู่ของตัวเอง? เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยขั้นตอนที่คุณสามารถทำตามได้! ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสูตรสบู่ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือการทำการตลาดออนไลน์ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ทุกสิ่งที่จำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจสบู่ให้ประสบความสำเร็จ