แชร์

กันแดด Physical, Chemical และ Hybrid คืออะไร เลือกแบบไหนดี?

Amabelle_logo.jpg Kevin @Amabelle
อัพเดทล่าสุด: 21 พ.ย. 2025
30 ผู้เข้าชม

กันแดด Physical, Chemical และ Hybrid คืออะไร เลือกแบบไหนดี?

ครีมกันแดดเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ แต่หลายคนยังสับสนว่า กันแดดแบบ Physical, Chemical และ Hybrid แบบไหนดีกว่า และเหมาะกับผิวแบบใดที่สุด

บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับกันแดดทั้ง 3 ประเภทแบบเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมากที่สุด

1. กันแดดแบบ Physical (Physical Sunscreen)

กันแดดแบบ Physical หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ กันแดดแร่ธาตุ ทำงานด้วยการสร้างเกราะป้องกันบาง ๆ บนผิว โดยใช้สารกรองรังสีจากแร่ธาตุธรรมชาติ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เมื่อรังสี UVA และ UVB ตกกระทบผิว ชั้นฟิล์มนี้จะทำหน้าที่สะท้อนและกระจายรังสีออกไป ลดโอกาสที่รังสีจะทำลายเซลล์ผิว ชั้นผิวจึงได้รับการปกป้องทันทีตั้งแต่ทาผลิตภัณฑ์

กันแดดแบบ Physical

จุดเด่นของกันแดด Physical

  • ให้การปกป้องทันทีหลังทา ไม่ต้องรอเวลาเซ็ตตัว

  • อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง และผิวแพ้ง่าย

  • มีโอกาสระคายเคืองน้อย

  • ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อย่างกว้างขวาง

  • มีความเสถียรสูง ไม่เสื่อมประสิทธิภาพง่ายเมื่อโดนแสงแดด

ข้อจำกัดของกันแดด Physical

  • ทิ้งคราบขาวบนผิว
    ข้อเสียที่พบได้บ่อยคือหลังทาแล้วผิวอาจดูขาวลอย โดยเฉพาะในคนผิวสองสีหรือผิวเข้ม ซึ่งทำให้แต่งหน้าต่อได้ยาก และผิวดูไม่เป็นธรรมชาติ

  • เนื้อค่อนข้างหนักและเกลี่ยยาก
    กันแดดแบบ Physical มักมีเนื้อสัมผัสที่หนากว่าประเภทอื่น โดยเฉพาะสูตรที่ใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ในความเข้มข้นสูง อาจทำให้รู้สึกหนักผิว เหนอะหนะ หรือเกลี่ยยาก

  • หลุดง่ายจากเหงื่อและการเสียดสี
    เนื่องจากกันแดดแบบ Physical ทำงานด้วยการเคลือบผิวและสะท้อนรังสี จึงสามารถหลุดออกได้ง่ายเมื่อมีเหงื่อออกมาก หรือมีการเช็ด ถูใบหน้า ทำให้ต้องทาซ้ำบ่อย

สารสำคัญที่พบได้ เช่น: Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate

2. กันแดดแบบ Chemical (Chemical Sunscreen)

กันแดดแบบ Chemical ใช้หลักการดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนพลังงานให้เป็นความร้อนก่อนปล่อยออกจากผิว โดยสารกรองรังสีที่พบบ่อย ได้แก่ Avobenzone, Octinoxate และ Octocrylene สูตรประเภทนี้ไม่ได้สะท้อนรังสีออกจากผิวเหมือนแบบ Physical แต่จะทำหน้าที่เหมือน ตัวดักจับ รังสีไว้ไม่ให้ทะลุเข้าสู่เซลล์ผิว

กันแดดแบบ Chemical

จุดเด่นของกันแดด Chemical

  • เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่ทิ้งคราบขาว

  • เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันและแต่งหน้า

  • ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ

  • ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะกับผิวมันและผิวผสม

ข้อจำกัดของกันแดด Chemical

  • มีโอกาสระคายเคืองสูงกว่ากันแดดประเภทอื่น
    กันแดดแบบ Chemical ทำงานโดยการ ดูดซับ รังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อน จึงอาจทำให้บางคนรู้สึกแสบผิว ร้อนผิว หรือเกิดอาการแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวเป็นสิวง่าย

  • ต้องทาล่วงหน้าก่อนออกแดด
    ไม่เหมือน Physical Sunscreen ที่สามารถปกป้องผิวได้ทันที กันแดดแบบ Chemical จำเป็นต้องทาก่อนออกแดดประมาณ 1520 นาที เพื่อให้สารกรองรังสีทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากทาแล้วออกแดดทันที ประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลง

  • ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่าย
    บางสูตรมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือซิลิโคนในปริมาณสูง ซึ่งอาจกระตุ้นการอุดตันหรือทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีรูขุมขนกว้างหรือผิวมัน

สารสำคัญที่พบได้ เช่น: Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate

3. กันแดดแบบ Hybrid (Hybrid Sunscreen)

กันแดดแบบ Hybrid คือการผสมผสานระบบของกันแดด Physical และ Chemical เข้าไว้ด้วยกันในสูตรเดียว โดยมีทั้งสารสะท้อนรังสีและสารดูดซับรังสี ทำให้เกิดการปกป้องที่ครอบคลุมและสมดุลมากขึ้น

กันแดดแบบ Hybrid

จุดเด่นของกันแดด Hybrid

  • ปกป้องรังสีได้ทั้งทางกายภาพและเคมี

  • เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่ายกว่า Physical เพียวๆ

  • ลดโอกาสเกิดคราบขาว พร้อมให้การปกป้องที่ยาวนาน

  • เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและกิจกรรมกลางแจ้ง

  • ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง

ข้อจำกัดของกันแดด Hybrid

  • มีโอกาสระคายเคืองในบางสภาพผิว
    เนื่องจากยังมีส่วนผสมของสารกรองรังสี UV แบบ Chemical จึงอาจทำให้บางคน โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ เกิดอาการแสบ คัน หรือผื่นแดงได้

  • เนื้อสัมผัสอาจไม่เบาสบายทุกสูตร
    เพราะต้องผสมสารกรองแสงหลายชนิด บางสูตรอาจให้ความรู้สึกหนักผิว เหนอะ หรือรู้สึกอุดตัน หากเลือกสูตรที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว

  • ยังคงมีโอกาสอุดตันรูขุมขน
    แม้จะใช้ฟิลเตอร์แบบ Physical ร่วมด้วย แต่หากมีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคนในปริมาณสูง ก็อาจกระตุ้นการเกิดสิวในผิวที่อุดตันง่าย

 

สรุป 

ไม่มีคำตอบตายตัวว่ากันแดดแบบไหน ดีที่สุด สำหรับทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือเพิ่งทำทรีตเมนต์ผิวมา กันแดด Physical จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า หากคุณต้องการเนื้อบางเบาและเนียนไปกับเมคอัพ กันแดด Chemical จะตอบโจทย์มากกว่า ส่วน Hybrid เหมาะกับคนที่ต้องการความสมดุลและความสะดวกในการใช้งานในทุกวัน

สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ประเภทของกันแดด แต่คือการทาอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เพียงพอ และทาซ้ำระหว่างวัน เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

 

หากคุณต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์หรือต้องการตัวทดลองสินค้าที่เกี่ยวข้องกับครีมกันแดด สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มี ทีม R&D มืออาชีพเฉพาะทาง คอยดูแลคุณตั้งแต่เริ่ม โรงงานได้รับมาตรฐาน GHPs / อย. ขั้นต่ำในการผลิตเริ่มเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น!

 



♥ Start Your Brand Start With Amabelle ~
Line Official : @amabelle
Tiktok Official : @amabelle.oem
Facebook : Amabelle รับผลิตเครื่องสำอาง รับสร้างแบรนด์ครบวงจร


Amabelle_logo.jpg
Kevin @Amabelle
บทความที่เกี่ยวข้อง
สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อผิว ?
ในยุคที่เราต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ ฝุ่น PM2.5 ความร้อน และแสงแดดแรง ผิวของเราถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องโดยอนุมูลอิสระ ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูผิว เพื่อให้ผิวสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
แนะนำสบู่ 5 สูตรที่คนนิยมใช้กันมากที่สุด !!
รวมที่สุดของสบู่สูตรยอดนิยมในไทย ทั้งสูตรผิวขาว สูตรสมุนไพร สูตรผลัดเซลล์ผิว และสูตรอ่อนโยน พร้อมเคล็ดลับผลิตสบู่สร้างแบรนด์ให้ขายดี จากผู้เชี่ยวชาญด้านสกินแคร์ของ Amabelle
น้ำมะพร้าวช่วยลดบวมได้จริงหรือไม่?
“น้ำมะพร้าว” คือเครื่องดื่มธรรมชาติที่คนไทยคุ้นเคยมานาน ด้วยรสชาติหวานนุ่ม สดชื่น และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลายคนเชื่อว่าน้ำมะพร้าวช่วย “ลดอาการบวม” ได้ ไม่ว่าจะเป็น บวมน้ำ บวมหน้า หรือบวมจากการนอนดึก
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy