กันแดด Physical, Chemical และ Hybrid คืออะไร เลือกแบบไหนดี?
อัพเดทล่าสุด: 21 พ.ย. 2025
121 ผู้เข้าชม

กันแดด Physical, Chemical และ Hybrid คืออะไร เลือกแบบไหนดี?
ครีมกันแดดเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ แต่หลายคนยังสับสนว่า กันแดดแบบ Physical, Chemical และ Hybrid แบบไหนดีกว่า และเหมาะกับผิวแบบใดที่สุด
บทความนี้จะพาคุณมาทำความรู้จักกับกันแดดทั้ง 3 ประเภทแบบเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมากที่สุด
1. กันแดดแบบ Physical (Physical Sunscreen)
กันแดดแบบ Physical หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ กันแดดแร่ธาตุ ทำงานด้วยการสร้างเกราะป้องกันบาง ๆ บนผิว โดยใช้สารกรองรังสีจากแร่ธาตุธรรมชาติ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เมื่อรังสี UVA และ UVB ตกกระทบผิว ชั้นฟิล์มนี้จะทำหน้าที่สะท้อนและกระจายรังสีออกไป ลดโอกาสที่รังสีจะทำลายเซลล์ผิว ชั้นผิวจึงได้รับการปกป้องทันทีตั้งแต่ทาผลิตภัณฑ์

จุดเด่นของกันแดด Physical
-
ให้การปกป้องทันทีหลังทา ไม่ต้องรอเวลาเซ็ตตัว
-
อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง และผิวแพ้ง่าย
-
มีโอกาสระคายเคืองน้อย
-
ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และ UVB อย่างกว้างขวาง
-
มีความเสถียรสูง ไม่เสื่อมประสิทธิภาพง่ายเมื่อโดนแสงแดด
ข้อจำกัดของกันแดด Physical
-
ทิ้งคราบขาวบนผิว
ข้อเสียที่พบได้บ่อยคือหลังทาแล้วผิวอาจดูขาวลอย โดยเฉพาะในคนผิวสองสีหรือผิวเข้ม ซึ่งทำให้แต่งหน้าต่อได้ยาก และผิวดูไม่เป็นธรรมชาติ -
เนื้อค่อนข้างหนักและเกลี่ยยาก
กันแดดแบบ Physical มักมีเนื้อสัมผัสที่หนากว่าประเภทอื่น โดยเฉพาะสูตรที่ใช้ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ในความเข้มข้นสูง อาจทำให้รู้สึกหนักผิว เหนอะหนะ หรือเกลี่ยยาก -
หลุดง่ายจากเหงื่อและการเสียดสี
เนื่องจากกันแดดแบบ Physical ทำงานด้วยการเคลือบผิวและสะท้อนรังสี จึงสามารถหลุดออกได้ง่ายเมื่อมีเหงื่อออกมาก หรือมีการเช็ด ถูใบหน้า ทำให้ต้องทาซ้ำบ่อย
สารสำคัญที่พบได้ เช่น: Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate
2. กันแดดแบบ Chemical (Chemical Sunscreen)
กันแดดแบบ Chemical ใช้หลักการดูดซับรังสี UV แล้วเปลี่ยนพลังงานให้เป็นความร้อนก่อนปล่อยออกจากผิว โดยสารกรองรังสีที่พบบ่อย ได้แก่ Avobenzone, Octinoxate และ Octocrylene สูตรประเภทนี้ไม่ได้สะท้อนรังสีออกจากผิวเหมือนแบบ Physical แต่จะทำหน้าที่เหมือน ตัวดักจับ รังสีไว้ไม่ให้ทะลุเข้าสู่เซลล์ผิว

จุดเด่นของกันแดด Chemical
-
เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่ทิ้งคราบขาว
-
เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันและแต่งหน้า
-
ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ
-
ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะกับผิวมันและผิวผสม
ข้อจำกัดของกันแดด Chemical
-
มีโอกาสระคายเคืองสูงกว่ากันแดดประเภทอื่น
กันแดดแบบ Chemical ทำงานโดยการ ดูดซับ รังสี UV แล้วเปลี่ยนเป็นความร้อน จึงอาจทำให้บางคนรู้สึกแสบผิว ร้อนผิว หรือเกิดอาการแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวเป็นสิวง่าย -
ต้องทาล่วงหน้าก่อนออกแดด
ไม่เหมือน Physical Sunscreen ที่สามารถปกป้องผิวได้ทันที กันแดดแบบ Chemical จำเป็นต้องทาก่อนออกแดดประมาณ 1520 นาที เพื่อให้สารกรองรังสีทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากทาแล้วออกแดดทันที ประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลง -
ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่าย
บางสูตรมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือซิลิโคนในปริมาณสูง ซึ่งอาจกระตุ้นการอุดตันหรือทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีรูขุมขนกว้างหรือผิวมัน
สารสำคัญที่พบได้ เช่น: Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate
3. กันแดดแบบ Hybrid (Hybrid Sunscreen)
กันแดดแบบ Hybrid คือการผสมผสานระบบของกันแดด Physical และ Chemical เข้าไว้ด้วยกันในสูตรเดียว โดยมีทั้งสารสะท้อนรังสีและสารดูดซับรังสี ทำให้เกิดการปกป้องที่ครอบคลุมและสมดุลมากขึ้น

จุดเด่นของกันแดด Hybrid
-
ปกป้องรังสีได้ทั้งทางกายภาพและเคมี
-
เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่ายกว่า Physical เพียวๆ
-
ลดโอกาสเกิดคราบขาว พร้อมให้การปกป้องที่ยาวนาน
-
เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและกิจกรรมกลางแจ้ง
-
ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
ข้อจำกัดของกันแดด Hybrid
-
มีโอกาสระคายเคืองในบางสภาพผิว
เนื่องจากยังมีส่วนผสมของสารกรองรังสี UV แบบ Chemical จึงอาจทำให้บางคน โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ เกิดอาการแสบ คัน หรือผื่นแดงได้ -
เนื้อสัมผัสอาจไม่เบาสบายทุกสูตร
เพราะต้องผสมสารกรองแสงหลายชนิด บางสูตรอาจให้ความรู้สึกหนักผิว เหนอะ หรือรู้สึกอุดตัน หากเลือกสูตรที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว -
ยังคงมีโอกาสอุดตันรูขุมขน
แม้จะใช้ฟิลเตอร์แบบ Physical ร่วมด้วย แต่หากมีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคนในปริมาณสูง ก็อาจกระตุ้นการเกิดสิวในผิวที่อุดตันง่าย
สรุป
ไม่มีคำตอบตายตัวว่ากันแดดแบบไหน ดีที่สุด สำหรับทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือเพิ่งทำทรีตเมนต์ผิวมา กันแดด Physical จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า หากคุณต้องการเนื้อบางเบาและเนียนไปกับเมคอัพ กันแดด Chemical จะตอบโจทย์มากกว่า ส่วน Hybrid เหมาะกับคนที่ต้องการความสมดุลและความสะดวกในการใช้งานในทุกวัน
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ประเภทของกันแดด แต่คือการทาอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เพียงพอ และทาซ้ำระหว่างวัน เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
หากคุณต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์หรือต้องการตัวทดลองสินค้าที่เกี่ยวข้องกับครีมกันแดด สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มี ทีม R&D มืออาชีพเฉพาะทาง คอยดูแลคุณตั้งแต่เริ่ม โรงงานได้รับมาตรฐาน GHPs / อย. ขั้นต่ำในการผลิตเริ่มเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น!
♥ Start Your Brand Start With Amabelle ~
Line Official : @amabelle
Tiktok Official : @amabelle.oem
Facebook : Amabelle รับผลิตเครื่องสำอาง รับสร้างแบรนด์ครบวงจร
บทความที่เกี่ยวข้อง
“น้ำมะพร้าว” คือเครื่องดื่มธรรมชาติที่คนไทยคุ้นเคยมานาน ด้วยรสชาติหวานนุ่ม สดชื่น และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลายคนเชื่อว่าน้ำมะพร้าวช่วย “ลดอาการบวม” ได้ ไม่ว่าจะเป็น บวมน้ำ บวมหน้า หรือบวมจากการนอนดึก
ดูแลริมฝีปากแห้ง แตก ให้กลับมานุ่ม ชุ่มชื้น สุขภาพดีด้วยวิธีง่าย ๆ พร้อมทริคบำรุงที่ได้ผลจริง ใช้ได้ทุกสภาพริมฝีปาก
หน้าหนาวคือช่วงเวลาที่หลายคนต้องเจอกับปัญหา ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ระคายเคือง ขาดความชุ่มชื้น บทความนี้จะพาคุณมาดูวิธีดูแลผิวให้ชุ่มชื้น แข็งแรง พร้อมรับลมหนาวแบบง่าย ๆ ที่ทำตามได้จริง
Kevin @Amabelle



